ศรีสะเกษ ผอ.รพ.ศรีสะเกษเผยมีความพร้อมให้บริการในเรื่องของวัคซีนโควิด 19 ทุกช่วงอายุ โดยมีแพทย์และกุมารแพทย์ประจำอยู่ตลอดเวลาพร้อมฉีดวัคซีนให้เด็กและประชาชน
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสโมสรพนักงานเทศบาล (เกาะห้วยน้ำคำ) อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า รพ.ศรีสะเกษซึ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์ขณะนี้คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคโควิด 19 ก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจากว่าเรามีการเปิดประเทศ และ มีการเคลื่อนไหวต่างๆทำให้มีคนไข้ป่วยเป็นโรคโควิด 19 เพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือในเรื่องของการฉีดวัคซีน ขณะนี้วัคซีนของเราสามารถรองรับได้ทุกช่วงอายุ โดยทาง รพ.ศรีสะเกษมีความพร้อมในเรื่องของวัคซีนทุกช่วงอายุให้บริการ และยังมีแพทย์และกุมารแพทย์ประจำอยู่ตลอดเวลาพร้อมหมุนเวียนปฐมพยาบาลและดูแลตลอดเวลาที่มีการฉีดวัคซีน ซึ่งหลังฉีดวัคซีนไปก็อาจจะมีผลข้างเคียงบ้าง บางคนก็ได้รับความรู้ไปเรียบร้อยแล้วว่าต้องดูแลอย่างไรต้องติดต่อยังไงกับทางโรงพยาบาล สำหรับจุดฉีดวัคซีนของ รพ.ศรีสะเกษและการบริการฉีดวัคซีนจะมีทุกวันจันทร์ในช่วงอายุตั้งแต่ 4 ขวบขึ้นไป ตรงที่จุดฉีดวัคซีน แต่สำหรับเด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่า 4 ขวบลงมา จะให้บริการฉีดวัคซีนที่สำนักงานบริการสาธารณสุขที่โรงไฟฟ้าเก่า ถนนอุบล ต.เมืองใต้ อ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่งมีแพทย์อยู่ประจำ จะให้บริการทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดีที่จะให้บริการ นอกนั้น รพ.สต.ทุก รพ.สต.ที่มีแพทย์ประจำอยู่ก็จะสามารถให้บริการได้
นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ตนขอให้ความมั่นใจว่า การฉีดวัคซีนมีความปลอดภัยมาก สำหรับอาการข้างเคียงของเด็กที่ฉีดวัคซีนไปแล้วที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั้น อาการก็จะเหมือนกับการฉีดวัคซีนทั่วไปก็คือว่า บริเวณที่ฉีดวัคซีนอาจจะมีตุ่มแดงขึ้นมาได้ 2 – 3 วันก็จะหายไปบางรายก็อาจจะมีไข้คล้ายกับไข้หวัดได้ในช่วง 2 – 3 วันแรก แต่ว่าอาการก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงยังไม่มีเกิดขึ้นแต่อย่างใด เนื่องจากว่าวัคซีนนี้เป็นวัคซีนใหม่ที่เพิ่งนำเข้า เราก็ได้เฝ้าระวังอยู่ แต่ว่าอย่างไรก็ตามตั้งแต่ฉีดวัคซีนนี้มาก็ยังไม่มีผู้ที่มีอันตรายร้ายแรงถึงกับเสียชีวิตแต่อย่างใด การฉีดวัคซีนเป็นการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต่อโรคไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อลดการเจ็บป่วยที่มีอาการรุนแรง เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคไวรัสโคโรนา 2019 ตนขอฝากถึงพี่น้องประชาชนชาว จ.ศรีสะเกษว่า ยังไงก็ตามโควิด 19 ก็ยังเป็นโรคติดต่อที่ยังคงจะต้องเฝ้าระวังอยู่เพราะฉะนั้นการดูแลตนเองให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง จะต้องปิดแมสหรือหน้ากากอนามัยอยู่ ในการพบปะสังสรรค์ในกลุ่มใหญ่ก็คงจะต้องเฝ้าระวังอยู่ การล้างมือบ่อย ๆ ก็ยังคงมีความสำคัญที่จะต้องดูแลตนเอง เพราะฉะนั้นการฉีดวัคซีนจึงยังคงมีความสำคัญ ท่านใดที่ฉีดวัคซีนเกิน 3 เดือนไปแล้วภูมิคุ้มกันเริ่มตกก็จะต้องไปฉีดวัคซีนอีกเพื่อเป็นการบูสเตอร์ทุกช่วงอายุ /////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ